ผู้สื่อข่าว ประชาชาติฯออนไลน์ รายงานว่า ในวันนี้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ได้เข้ามาเยี่ยมและสอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากที่พล.ต.ต พงศพัศได้เคยช่วยเหลือปลดหนี้นอกระบบให้แก่บ้านครูน้อย เมื่อครั้งเกิดวิกฤติปัญหาเมื่อปี 53 โดยเปิดบัญชีปลดหนี้ให้กว่า 3 ล้านบาท
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า บ้านครูน้อย เป็นสถานสงเคราะห์ในตำนาน ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2523 โดยตั้งใจจะดูแลเด็กที่มีปัญหาในชุมชน ซึ่งบ้านครูน้อยเคยมีปัญหามาแล้วหลายครั้ง แต่ก็สามารถผ่านพ้นมรสุมเหล่านั้นมาได้ แต่ในตอนนี้ ถือเป็นมรสุมลูกใหม่ โดยครูน้อยตั้งใจจะปกป้องเด็กๆ และสถานสงเคราะห์โดยการปิดทำการลง และต้องการขายบ้านเพื่อใช้หนี้สินที่อยู่
"หลังจากผมได้พูดคุยกับผบ.ตร. โดยเล่าปัญหาทั้งหมดให้ฟัง ท่านฝากความเห็นใจและส่งผมมาพูดคุยและแกปัญหาในวันนี้ โดยประเด็นสำคัญอยู่ที่ปัญหาการแกไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นหนี้สินที่เกิดจากการใช้จ่ายเกินตัว โดยได้ไปหยิบยืมเงินมาจากเจ้าหนี้ถึง 10-20 ราย และขาดส่งดอกเบี้ยเป็นเวลานาน ทำให้หนี้สินพอกพูน ซึ่งตัวเลขหนี้สินทั้งหมด ผมจะขอรายละเอียดกับครูน้อย และตั้งใจว่าจะเคลียร์หนี้สินให้ครูน้อยอีกครั้ง เพื่อรักษาเจตนารมณ์ที่ดีต่อไป"
"แต่ทางครูน้อยต้องสัญญาว่า ครั้งนี้จะเป็นการกู้หนี้นอกระบบครั้งสุดท้าย ได้เงินเท่าไหร่ ต้องให้เด็กทั้งหมด จัดการใช้เงินทุกบาทอย่างเป็นระบบ เพื่อไม่ให้รายจ่ายสูงกว่ารายรับ"
ด้านนางนวลน้อย ทิมกุล หรือ "ครูน้อย" กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาทางการเงินและปัญหาสุขภาพเรื้อรังมานาน และต้องรับภาระค่าใช้จ่ายวันละกว่า 6,500 บาท ทำให้เกิดหนี้สินมากมาย และคิดว่าถ้าปล่อยทิ้งไว้ จะเกิดปัญหาความเสียหายมากกว่านี้ จึงได้ประกาศว่า จะปิดทำการภายในสิ้นเดือนนี้
แต่หลังจากข่าวแพร่ออกไป ได้มีหลายฝ่ายโทรเข้ามาสอบถามและบอกว่าจะให้ความช่วยเหลือ อีกทั้งวันนี้ พล.ต.ตพงศพัศก็ได้มาให้ความช่วยเหลือ ตนจึงคิดว่าจะเปิดทำการต่อไปอีกประมาณ 3 ปี ตามสุขภาพจะอำนวย
และขอชี้แจงว่า จากกระแสข่าวที่ว่าครูน้อยได้นำเงินไปใช้เพื่อการส่วนตัวนั้น ครูน้อยยืนยันว่า ไม่เป็นจริงแต่อย่างใด ส่วนข่าวลือเรื่องไปซื้อที่ดิน ขอยืนยันว่าสามารถไปตรวจสอบที่ดินได้ ว่าตนและครอบครังไม่ได้ซื้อที่ดินตามที่เป็นข่าวลือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น